ต่อต้าน 'สมเด็จช่วง' ทำไม?

  • 11 พ.ค. 2563
  • 4104
หางาน,สมัครงาน,งาน,ต่อต้าน 'สมเด็จช่วง' ทำไม?

 

ช่วงนี้ประเด็นที่หลายๆ ฝ่ายจับตามองกันคงเป็นเรื่องของ การแต่งตั้งสมเด็จพระสังฆราชองค์ที่ 20 หลังจากที่มหาเถรสมาคมได้มีการเสนอชื่อ สมเด็จช่วงขึ้นเป็นสมเด็จพระสังฆราช ทำให้เกิดกระแสต่อต้านอย่างมากมายในสังคม จากปมเหตุหลายๆอย่างที่เกิดขึ้นของสมเด็จช่วง

สำหรับประวัติ สมเด็จพระมหารัชมังคลาจารย์ (สมเด็จช่วง) เกิดเมื่อวันพุธที่ 26 สิงหาคม 2468 โดยบรรพชาเมื่อวันที่ 1 พฤษภาคม 2482 ณ วัดสังฆราชา เขตลาดกระบัง กรุงเทพมหานคร เมื่ออายุ 14 ปี และได้อุปสมบท เมื่อวันที่ 11 พฤษภาคม 2488 ณ วัดปากน้ำภาษีเจริญ กรุงเทพมหานคร ก่อนที่จะขึ้นเป็นเจ้าอาวาสวัดปากน้ำภาษีเจริญ เมื่อปี 2508 และได้รับพระราชทานเลื่อนสมณศักดิ์เลื่อนมาจนเมื่อปี 2538 ได้รับพระราชทานสถาปนาสมณศักดิ์ขึ้นเป็น ‘สมเด็จพระราชาคณะ’

จากปมต่างๆที่เกิดขึ้นของ ‘สมเด็จช่วง‘ ทำให้หลายๆฝ่ายออกมาต่อต้าน จากสาเหตุดังต่อไปนี้

1. เมื่อปี 2556 ภายหลังกรมสอบสวนคดีพิเศษหรือดีเอสไอ พบว่ามีบริษัทนำเข้ารถหรูแบบผิดกฎหมาย และพบรถหรูยี่ห้อเมอร์เซเดสเบนซ์ ทะเบียน ขม 99 รุ่น W186 มูลค่ากว่า 3 ล้านบาท ที่มีชื่อสมเด็จพระมหารัชมังคลาจารย์ หรือ ‘สมเด็จช่วง’ เจ้าอาวาสวัดปากน้ำภาษีเจริญ เป็นผู้ครอบครอง ซึ่งต่อมาพบว่าไม่มีการสะสมรถโบราณเป็นจำนวนมาก

2. คดีการฉ้อโกงเงินในสหกรณ์เครดิตยูเนี่ยนคลองจั่น จำกัด และสั่งจ่ายเพื่อบริจาคเงินกว่า 1,200 ล้านบาท ให้กับ ‘วัดพระธรรมกาย‘ เกิดคดีความฟ้องร้องขึ้น แม้ในภายหลัง ทางวัดพระธรรมกาย ได้ออกมาชี้แจงว่า  ได้คืนทรัพย์สินและที่ดินไปแล้ว ทำให้หลุดจากคดีนี้ไป แต่ก็ยังมีข้อกังขาจากหลายฝ่ายว่า การแต่งตั้ง ‘สมเด็จช่วง’ ให้ดำรงตำแหน่ง สมเด็จพระสังฆราชองค์ที่ 20 เป็นเรื่องที่เหมาะสมหรือไม่?

3. ในปี พ.ศ. 2542 สมเด็จพระญาณสังวร สมเด็จพระสังฆราช สกลมหาสังฆปริณายก ทรงมีพระลิขิตเกี่ยวกับพระธัมมชโย กรณีมีคนร้องเรียนว่าได้เบียดบังเอาทรัพย์สินของวัดพระธรรมกายไปเป็นจำนวนมาก และบิดเบือนพระพุทธศาสนา และมีพระวินิจฉัยให้พระธัมมชโย ได้สิ้นสุดความเป็นพระภิกษุ เนื่องเพราะไม่ยินยอมคืนทรัพย์สินที่ได้นำไปใช้ในนามของตนเอง แต่หลังจากที่ ‘สมเด็จช่วง’ ได้เป็นผู้ปฏิบัติหน้าที่สมเด็จพระสังฆราช  คดีของ ‘พระธัมมชโย’ ก็มีการยื่นถอนฟ้อง และยกเลิกการปาราชิก

 เจ้าอาวาสวัดต้องอาบัติปาราชิก เรื่องเงินและที่ดินวัดพระธรรมกาย ตามพระลิขิตของสมเด็จพระญาณสังวร สมเด็จพระสังฆราช สกลมหาสังฆปริณายก เมื่อปี 2542

ล่าสุด เมื่อวันที่ 18 ก.พ. ที่ผ่านมา ภายหลังดีเอสไอได้แถลงข่าวชี้มูลความผิดเรื่องรถยนต์โบราณของสมเด็จพระมหารัชมังคลาจารย์ ‘สมเด็จช่วง’ ซึ่งมีหลักๆ อยู่ 3 เรื่อง คือ 1.รถยนต์นำเข้าอย่างผิดกฎหมาย 2.รถยนต์จดประกอบผิดกฎหมาย และ 3.ผู้ครอบครองรู้หรือไม่ว่ารถนำเข้า และจดประกอบผิดกฎหมาย

ทางด้าน นายศุภภัทร์พจน์ นิติศศธร ฝ่ายกฎหมายวัดปากน้ำฯ กล่าวว่า “ผมยืนยันว่าสมเด็จพระมหารัชมังคลาจารย์ ในฐานะผู้ครอบครองรถยนต์โบราณ และพระมหาศาสนมุนี (ธนกิจ สุภาโว) หรือเจ้าคุณแป๊ะ ผู้ช่วยเจ้าอวาสวัดปากน้ำฯ ในฐานะผู้ว่าจ้างให้อู่วิชาญบูรณะรถยนต์โบราณ ไม่รู้ว่ารถยนต์คันดังกล่าว มีกระบวนการนำเข้า และจดประกอบอย่างผิดกฎหมาย เนื่องจากเจ้าคุณแป๊ะได้ว่าจ้างให้อู่วิชาญประกอบรถในราคาเหมาจ่ายเป็นจำนวนเงิน 4 ล้านบาท แบ่งจ่ายออกเป็น 3 งวด โดยงวดสุดท้ายท่านตกลงกับทางอู่ว่าจะจ่ายเมื่อรถซ่อมเสร็จ และได้เล่มทะเบียนรถแล้ว ส่วนกระบวนการนำเข้า หรือซ่อมแซมรถ ทั้ง 2 ท่านไม่ทราบจริงๆ เพราะอู่เป็นผู้ดำเนินการทั้งหมด”

จนถึงตอนนี้อธิบดีกรมสอบสวนคดีพิเศษ กรมสอบสวนคดีพิเศษเห็นว่าเป็นการกระทำผิดทางอาญาที่มีความซับซ้อน กระทำผิดเป็นขบวนการ และมีบุคคลที่เกี่ยวข้องและอยู่ในข่ายที่จะต้องถูกดำเนินคดีอาญาหลายคน จำเป็นต้องใช้วิธีการสืบสวนสอบสวนและรวบรวมพยานหลักฐานเป็นพิเศษ อย่างไรก็ตามอธิบดีกรมสอบสวนคดีพิเศษมีคำสั่งให้รับเรื่องดังกล่าวไว้สอบสวนเป็นคดีพิเศษ เพื่อพิสูจน์ความผิดและหาตัวผู้กระทำผิดมาดำเนินคดีต่อไป

ไม่รู้ว่าเรื่องราว การแต่งตั้งสมเด็จพระสังฆราชองค์ที่ 20 นี้จะเป็นอย่างไรในภายภาคหน้า จะมีผลต่อชีวิตของคนทำงานอย่างเรามากน้อยเพียงใด ยังไงก็ขอฝากให้ทุกคนติดตามข่าวสารกันอย่างมีสตินะครับ ด้วยความปราถนาดีจาก JOBBKK.com

หางานตามสาขาอาชีพ

JOBBKK.COM © สงวนลิขสิทธิ์ All Right Reserved

jobbkk มีเพียงเว็บเดียวเท่านั้น ไม่มีเว็บเครือข่าย โปรดอย่าหลงเชื่อผู้แอบอ้าง และหากผู้ใดแอบอ้าง ไม่ว่าทาง Email, โทรศัพท์, SMS หรือทางใดก็ตาม จะถูกดำเนินคดีตามที่กฎหมายบัญญัติไว้สูงสุด DBD

Top